อาหารการกิน – คลังปัญญา.คอม แหล่งรวบรวมความรู้ต่างๆมากมายทั่วโลก Tue, 02 Apr 2019 12:50:09 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=4.9.5 เคล็ดลับ! วิธีหุงข้าวให้อร่อย ขึ้นหม้อ กลิ่นหอมชวนน่ารับประทาน /%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%ab%e0%b8%b8%e0%b8%87%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a7/ Sun, 24 Feb 2019 02:35:48 +0000 /?p=5199 “ข้าว” มีหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นข้าวหอมมะลิ ข้าวกล้อง […]

The post เคล็ดลับ! วิธีหุงข้าวให้อร่อย ขึ้นหม้อ กลิ่นหอมชวนน่ารับประทาน appeared first on คลังปัญญา.คอม.

]]>
เคล็ดลับ! วิธีหุงข้าวให้อร่อย ขึ้นหม้อ กลิ่นหอมชวนน่ารับประทาน

“ข้าว” มีหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นข้าวหอมมะลิ ข้าวกล้อง ข้าวญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นอาหารหลักที่พวกเรารับประทานกันทุกมื้อ และการหุงข้าวเป็นเรื่องง่ายมาก เพราะปัจจุบันหม้อหุงข้าวมีฟังก์ชันมากมาย แถมสะดวกสบายไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องคอยเช็คน้ำ หรือกังวลว่าข้าวจะติดก้นหม้อ แต่หลายๆ ท่านก็ยังประสบปัญหาหุงข้าวแล้วข้าวแข็งหรือแฉะเกินไป วันนี้เรามีขั้นตอนการหุงข้าวมาฝากกันค่ะ

วิธีหุงข้าวให้อร่อย

  1. ตักข้าวสารใส่ที่ถ้วยตวง แล้วเทใส่หม้อข้าวที่เตรียมไว้
  2. จากนั้นนำน้ำเปล่าเทให้ท่วมข้าวสาร แล้วใช้มือซาวข้าวให้ทั่วแล้วเทน้ำออก จากนั้นซาวข้าวด้วยน้ำสะอาดอีก 1 รอบ (ให้ใช้มือคนๆ 2-3 รอบ ไม่ต้องคนนาน เพราะจะทำให้ข้าวบานไว เวลาหุงเม็ดข้าวจะไม่อวบสวย)
  3. นำผ้าสะอาดมาเช็คน้ำข้างๆ และก้นหม้อ
  4. พอเราซาวข้าวเอาฝุ่นหรือเปลือกข้าวออกแล้ว ให้เราเขี่ยเม็ดข้าวตรงขอบหม้อลง แล้วนำน้ำสะอาดมาเทใส่ กะปริมาณน้ำไม่ใส่มากหรือน้อยเกินไป (ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1.2 ส่วน) ให้ใช้นิ้วชี้จุ่มลงไปหรือวางมือบนข้าว (เทน้ำให้ท่วมฝ่ามือเล็กน้อย)
  5. นำหม้อข้าวใส่หม้อหุงข้าว ปิดฝา เสียบปลั๊ก เเล้วกดปุ่มหม้อข้าวลง จากนั้นรอให้ข้าวสุกเป็นอันเสร็จสิ้น

เคล็ดลับการหุงข้าวสำหรับคุณแม่บ้าน

  1. อุ่นข้าวเก่าให้เหมือนใหม่อีกครั้ง ให้คุณนำเกลือเล็กน้อยมาละลายในน้ำ จากนั้นนำไปพรมบนข้าวเก่าพอให้ชุ่ม แล้วนำไปอุ่นอีกครั้ง เท่านี้เราก็ได้ข้าวเก่าที่เหมือนใหม่แล้ว หรือเวลาหุงข้าวให้เติมเกลือลงไป 1 ช้อนชา ก็จะช่วยให้ข้าวฟูและหอมขึ้น
  2. หุงข้าวสวยให้ขึ้นหม้อ เพียงคุณบีบมะนาวลงไป 3-4 หยด ก็จะช่วยให้ข้าวมีสีขาวนวล และเรียงกันเป็นเม็ด อย่าบีบเยอะเกินไปจะทำให้ข้าวมีรสชาติเปรี้ยวได้
  3. แก้ปัญหาหุงข้าวแฉะ ด้วยการนำขนมปัง 2-3 แผ่น มาวางลงในหม้อแล้วกดสวิตซ์หุงใหม่อีกครั้ง ขนมปังจะช่วยดูดซับน้ำส่วนเกินออกมา
  4. หุงข้าวไม่ให้ติดก้นหม้อ หลังจากข้าวดีดอย่าเปิดฝาหรือตักข้าวทันที ให้รอข้าวระอุก่อนสัก 10-15 นาที เพื่อให้ไอน้ำลงไปก้นหม้อก่อน เราจะได้ทานข้าวก้นหม้อที่นุ่มไม่แข็ง แล้วช่วยให้เวลาล้างหม้อล้างได้ง่าย ไม่ต้องออกแรงขูด และก้นหม้อไม่เป็นรอยอีกด้วย
  5. ข้าวบูดคาหม้อ ถ้าล้างไม่สะอาดนำไปหุงครั้งหน้าข้าวก็จะบูดอีก ดังนั้นให้เราล้างหม้อด้วยน้ำยาล้างจาน จากนั้นใส่น้ำครึ่งหม้อแล้วใส่น้ำส้มสายชู 1-2 ช้อนชา นำหม้อข้าวไปใส่หม้อหุงข้าวแล้วกดสวิตซ์เสมือนหุงข้าว รอเวลา 20 นาที หรือให้น้ำเดือด จากนั้นเทน้ำทิ้งแล้วล้างด้วยน้ำสะอาดนำไปพึ่งแดดให้แห้ง วิธีนี้จะช่วยฆ่าเชื้อในหม้อหุงข้าวได้

เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ วิธีการหุงข้าวเพียงไม่กี่ขั้นตอน คุณก็สามารถหุงข้าวทานเองที่บ้านได้ง่ายๆ แล้ว ทำครั้งแรกอาจจะสุกบ้างไม่สุกบ้าง แต่ถ้านำเทคนิคของเราไปปฏิบัติรับรองได้ว่า ครั้งต่อไปข้าวที่ออกมาจะนุ่มอร่อย มีกลิ่นหอมน่ารับประทานแน่นอนค่ะ เป็นกำลังใจให้กับแม่บ้านทุกท่านนะคะ

The post เคล็ดลับ! วิธีหุงข้าวให้อร่อย ขึ้นหม้อ กลิ่นหอมชวนน่ารับประทาน appeared first on คลังปัญญา.คอม.

]]>
เคล็ดลับ! วิธีต้มไข่มุกให้อร่อย เหนียวนุ่ม ไม่ติดกัน ทำอย่างไร /%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%95%e0%b9%89%e0%b8%a1%e0%b9%84%e0%b8%82%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%81/ Wed, 20 Feb 2019 01:30:51 +0000 /?p=5186 อากาศร้อนๆ แบบนี้ คงหนีไม่พ้นเครื่องดื่มยอดฮิตอย่างชามะ […]

The post เคล็ดลับ! วิธีต้มไข่มุกให้อร่อย เหนียวนุ่ม ไม่ติดกัน ทำอย่างไร appeared first on คลังปัญญา.คอม.

]]>
เคล็ดลับ! วิธีต้มไข่มุกให้อร่อย เหนียวนุ่ม ไม่ติดกัน ทำอย่างไร

อากาศร้อนๆ แบบนี้ คงหนีไม่พ้นเครื่องดื่มยอดฮิตอย่างชามะลิ ชาแดง ชานม ชาเขียว หรือโกโก้ ที่หลายๆ คนชอบเพิ่มความอร่อยด้วย “ไข่มุก” เป็นท็อปปิ้งติดปากไม่ว่าเด็ก วัยรุ่น หรือผู้ใหญ่มักคุ้นเคยและสั่งทานกันเป็นประจำ แต่เพื่อนๆรู้หรือไม่ว่า…ไข่มุกนั้นทำมาจากอะไร? และมีวิธีการทำอย่างไรให้ไข่มุกไม่เป็นก้อนติดกัน แถมยังเหนียว นุ่ม และหวานอร่อยอีกด้วย

ต้นกำเนิดของ “เมนูเครื่องดื่มไข่มุก”

รู้หรือไม่ เครื่องดื่มที่ใส่ไข่มุกนี้ ดั้งเดิมเป็นเครื่องดื่มสัญชาติไต้หวัน ร้านแรกที่เริ่มขายเมนูชาไข่มุกคือ ร้านชาชุน ฉุ่ยถังในเมืองไถจง บางท่านก็บอกว่ามาจากร้านชาหานหลิน ที่เมืองไถหนาน ที่มาของคำว่า “ไข่มุก” นั่นก็เพราะว่า เขาใช้เม็ดสาคูสีขาวมาใส่ในชา ซึ่งเม็ดสาคูก็ดูคล้ายๆ ไข่มุก แต่ไม่นาน ร้านหานหลินก็ได้ปรับเปลี่ยนส่วนผสมที่ทำให้ไข่มุกเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีดำแบบที่พวกเรากินกันในปัจจุบันนี้

วิธีต้มไข่มุกในเครื่องดื่มชา

เครื่องดื่มที่ใส่ไข่มุกมีมากมายหลายสูตร มีทั้งผสมนมและไม่ผสมนม ซึ่งแต่ละสูตรใช้ส่วนประกอบที่แตกต่างกันไป แต่ไข่มุกที่เป็นท๊อปปิ้งนี้ที่จริงทำมาจาก “แป้งมันสำปะหลัง” นำมาคลุกเคล้าผสมน้ำแล้วปั้นเป็นเม็ดเล็กๆไว้ พอจะทานก็นำไปต้ม แต่เพื่อประหยัดเวลา เดี๋ยวนี้จึงมีไข่มุกสำเร็จรูปวางขายตามท้องตลาดแล้ว ขั้นตอนต่อไป เราไปดูวิธีต้มไข่มุกกันเลย

ส่วนผสมไข่มุก

  • ไข่มุก 250 กรัม (หาซื้อได้ตามร้านเบเกอรี่ หรือร้านขายอุปกรณ์ชงชากาแฟ)
  • น้ำตาลทรายแดง หรือน้ำตาลทรายขาว 1/2 ถ้วย
  • น้ำผึ้ง (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) 1/4 ถ้วย
  • น้ำร้อน

วิธีการต้มไข่มุก

  1. ใส่น้ำลงในหม้อปริมาณ 2 ส่วนของไข่มุกที่เราใช้ (แนะนำให้ใช้หม้อที่มีขนาดใหญ่และก้นหนา) เปิดไฟปานกลางตั้งไว้จนเดือด
  2. ใส่ไข่มุกลงไปในหม้อ หมั่นคนตลอดเวลา เพื่อไม่ให้ไข่มุกติดกัน
  3. เตรียมน้ำเย็นใส่ถ้วย ต้มไปเรื่อยๆ สัก 5-10 นาที ลองตักไข่มุกสัก 1-2 เม็ด จับหรือชิมเพื่อดูว่าสุกหรือยัง ถ้ายังให้ต้มต่อไปเรื่อยๆ อีกประมาณ 30 นาที แต่ถ้านิ่มแล้วให้ปิดไฟใช้ไม้พายคนต่ออีกสักครู่ และปิดฝาหม้อพักทิ้งไว้ 30 นาที
  4. เทไข่มุกพักไว้ที่กระชอน แล้วล้างด้วยน้ำเย็นจนเมือกเหนียวๆ หลุดออกหมด พักทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำสัก 2-3 นาที
  5. จากนั้นเตรียมหม้ออีกใบ ใส่ไข่มุกลงไปตามด้วยน้ำผึ้งหรือน้ำตาลทรายผสมให้เข้ากันจนละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ถ้าเกิดไข่มุกแห้งค่อยๆ ผสมน้ำเปล่าลงไปทีละน้อยๆก็ได้
  6. เตรียมแก้วสวยๆ พร้อมตักไข่มุกลงแก้ว แล้วใส่เครื่องดื่มพร้อมทานได้เลย

วิธีเก็บไข่มุก

  • เม็ดไข่มุกที่เปิดแล้ว แต่ยังไม่ได้ต้ม แนะนำว่าควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องไม่ต้องนำเข้าตู้เย็นค่ะ
  • เม็ดไข่มุกที่ต้มแล้ว หากทิ้งไว้ข้ามคืนจะเกิดการแข็งตัว แนะนำว่าควรต้มวันต่อวัน และต้มพอเหมาะที่เราจะรับประทานหรือเพียงพอต่อการขายในแต่ละวันนะคะ

เคล็ดลับความอร่อย

เม็ดไข่มุกสำเร็จรูปมีให้เลือกมากมายหลากหลายยี่ห้อ ส่วนที่คนนิยมใช้ก็จะมี เช่น เม็ดไข่มุกอี้เหวินตราเพชร ตราโทรจัน

วิธีทำให้ไข่มุกเหนียวนุ่ม หากไข่มุกผสมลงในเครื่องดื่มแล้ว ต้องดื่มทันที และควรกะปริมาณในการทำให้ทานครั้งเดียวหมด ไม่ควรแช่ในเครื่องดื่มนานๆ หรือทิ้งไว้ข้ามคืน เพราะ แป้งจะคืนรูป ทำให้ไข่มุกแห้ง แข็งและรสชาติไม่อร่อย

ปัจจุบันนี้ ร้านชาไข่มุกเข้ามาตีตลาดในบ้านเรามากมาย จนกลายเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตไปแล้ว หากเพื่อนๆต้องการลงทุนขายเครื่องดื่มผสมไข่มุก ขอให้วางแผนดีๆ เพื่อประโยชน์สูงและความคุ้มค่าที่สุด เพราะการเตรียมไข่มุกจะใช้เวลานาน มีหลายขั้นตอน และไม่สามารถเก็บไว้ค้างคืนได้ ส่วนคุณลูกค้าทั้งหลาย ก็อย่าทานเพลินจนลืมออกกำลังกายนะคะ เพราะนอกจากจะมีแป้งในไข่มุกแล้วยังมีปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่มอีกด้วยค่ะ

The post เคล็ดลับ! วิธีต้มไข่มุกให้อร่อย เหนียวนุ่ม ไม่ติดกัน ทำอย่างไร appeared first on คลังปัญญา.คอม.

]]>
เคล็ดลับ วิธีนึ่งปลาให้อร่อย ล้างอย่างไรให้สะอาด ไร้กลิ่นเหม็นคาว /%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%99%e0%b8%b6%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%b2/ Tue, 29 Jan 2019 19:25:59 +0000 /?p=4904 ป.ปลา ถือเป็นราชาของโปรตีน ซึ่งแบ่งออกเป็นปลาน้ำจืดกับป […]

The post เคล็ดลับ วิธีนึ่งปลาให้อร่อย ล้างอย่างไรให้สะอาด ไร้กลิ่นเหม็นคาว appeared first on คลังปัญญา.คอม.

]]>
เคล็ดลับ วิธีนึ่งปลาให้อร่อย ล้างอย่างไรให้สะอาด ไร้กลิ่นเหม็นคาว

ป.ปลา ถือเป็นราชาของโปรตีน ซึ่งแบ่งออกเป็นปลาน้ำจืดกับปลาน้ำเค็ม มีคุณค่าทางอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย และอุดมไปด้วยวิตามินกับแร่ธาตุที่สำคัญ แล้วยังมีผลต่อการทำงานของระบบอวัยวะภายในร่างกาย เช่น ระบบทางเดินอาหาร และระบบประสาท ช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่สึกหรอ เนื้อปลาทานง่าย ไม่เหนียว ทานได้ทุกเพศ ทุกวัย และยังสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลายเมนูทั้งลวกจิ้ม นึ่ง ต้ม ย่างหรือทอด การปรุงรสชาติอาหารให้อร่อยแล้ว การล้างปลาให้ไม่มีกลิ่นคาวนั้นก็สำคัญ

วิธีนึ่งปลา

วันนี้เรามีเคล็ดลับการนึ่งปลามาฝาก มาดูวิธีทำกันเถอะ

  1. เลือกซื้อปลาที่สดเสมอ ไม่งั้นเนื้อปลาที่นำไปนึ่งจะเละไม่อร่อยแน่ๆ วิธีเลือกให้ดูที่ตาปลาต้องใสไม่ขุ่นเป็นสีเทา เหงือมีสีแดง ไม่เขียวคล้ำ เกล็ดไม่หลุดออก และเนื้อปลาต้องนิ่มไม่แข็งทื่อ ให้ใช้นิ้วกดเบาๆ มีความยืดหยุ่นไม่บุ๋มตามนิ้วมือ
  2. ล้างปลาให้สะอาด ขอดเกล็ดและล้วงไส้ให้เรียบร้อย เพื่อให้เนื้อปลารัดตัว ไม่แตกและมีสีขาวชวนน่าทานให้ทาเนื้อปลาด้วยน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชูที่ผสมกับเกลือ อ๋อ..สูตรลับอีกอย่างคือ การยัดไส้ด้วยข่า ตะไคร้ จะช่วยเพิ่มความหอมยิ่งขึ้น
  3. ตั้งหม้อนึ่งให้น้ำเดือดด้วยไฟแรง ประมาณ 15-20 นาที (ขึ้นอยู่กับขนาดปลา)
  4. ระหว่างรอปลาสุก เราไปเตรียมน้ำยำกันเถอะ ส่วนผสมคือ น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย และน้ำอุ่น ใส่ลงถ้วย แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นใส่กระเทียมและพริกขี้หนู
  5. ปลาสุกแล้วพร้อมเสิร์ฟ จัดใส่จานและราดน้ำยำได้เลยจ้า

วิธีล้างปลาไม่ให้มีกลิ่นคาว

เคล็ดลับ…การล้างปลาให้ไม่ “เหม็นคาว” วิธีเหล่านี้จะทำหลังจากผ่านกระบวนการควักไส้เรียบร้อยแล้วนะ

  1. ล้างด้วยน้ำสะอาดกับเกลือ ให้คุณนำเกลือทาให้ตัวปลา รอประมาณ 1 นาทีจากนั้นก็ขอดเกล็ด และนำไปล้างน้ำเปล่าให้สะอาดก่อนนำไปปรุงอาหาร ซึ่งเกลือจะช่วยลดความคาว และทำให้เกล็ดปลาหลุดออกง่ายขึ้น เหมาะกับปลาช่อน
  2. ล้างด้วยน้ำสะอาดกับมะนาว ให้คุณเตรียมชาม ใส่น้ำสะอาดประมาณ 1 ลิตร (ขึ้นอยู่กับปริมาณปลาที่ทำ) แล้วหั่นมะนาวเป็นแผ่นบางๆ นำลงไปแช่ในน้ำที่เตรียมไว้ จากนั้นให้นำแผ่นมะนาวที่แช่น้ำมาถูลงบนตัวปลาให้ทั่วแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า มะนาวจะช่วยลดกลิ่นคาวและช่วยให้เนื้อปลามีความขาวดูน่ารับประทานมากขึ้น เหมาะกับปลาทับทิม
  3. ล้างด้วยน้ำสะอาดกับแป้งมัน ให้คุณนำแป้งมันมาทาให้ทั่วตัวปลา แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด แป้งมันจะช่วยขจัดเมือกที่ตัวปลาและดูดซับเลือดออกได้ง่าย เหมาะกับปลาดุก

แม่บ้านที่ได้อ่านบทความนี้ จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและหมั่นใจขึ้นเวลาทำอาหารเมนูปลา อย่าลืม!! นำไปทำให้คุณสามี ลูกๆ และคนในครอบครัวทานกันนะคะ

The post เคล็ดลับ วิธีนึ่งปลาให้อร่อย ล้างอย่างไรให้สะอาด ไร้กลิ่นเหม็นคาว appeared first on คลังปัญญา.คอม.

]]>
เคล็ดลับ!! วิธีนึ่งปูม้า ปูทะเลให้อร่อยเด็ด เจ็ดย่านน้ำ /%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%99%e0%b8%b6%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%9b%e0%b8%b9/ Thu, 24 Jan 2019 18:03:03 +0000 /?p=4879 ปูนึ่ง เป็นอีกหนึ่งเมนูของอาหารทะเลที่ผู้คนนิยมรับประทา […]

The post เคล็ดลับ!! วิธีนึ่งปูม้า ปูทะเลให้อร่อยเด็ด เจ็ดย่านน้ำ appeared first on คลังปัญญา.คอม.

]]>
เคล็ดลับ!! วิธีนึ่งปูม้า ปูทะเลให้อร่อยเด็ด เจ็ดย่านน้ำ

ปูนึ่ง เป็นอีกหนึ่งเมนูของอาหารทะเลที่ผู้คนนิยมรับประทาน ยิ่งปูที่นึ่งสดๆ เนื้อปูจะมีรสชาติหวาน ทานพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดเข้ากันอย่างมาก และเมนูนี้คุณเองก็สามารถทำทานเองได้ที่บ้าน

วิธีนึ่งปูให้อร่อย

ปูที่นิยมนำมานึ่งคือ ปูทะเลกับปูม้า ถึงเนื้อจะไม่เยอะเท่าการต้ม แต่รับรองว่าเนื้อปูมีความหวานแน่นอนค่ะ

  1. เตรียมภาชนะสำหรับล้างปู ให้นำแปรงสีฟันที่ใช้แล้วมาขัดตัวปู เพื่อล้างคราบสกปรกก่อน ประมาณ 2-3 น้ำ ไม่ต้องแกะยางรัดออกนะคะ เดี๋ยวจะโดนปูหนีบเอาได้
  2. นำไปผึ่งให้สะเด็ดน้ำ โดยคว่ำตัวปูเพื่อไม่ให้น้ำขังที่กระดอง วิธีนี้จะช่วยลดความคาวลงได้
  3. เตรียมหม้อสำหรับนึ่ง ตั้งไฟให้น้ำเดือด จากนั้นนำปูทั้งตัวไปวางเรียงในภาชนะ ให้หงายท้องปูขึ้นนะคะ บางท่านอาจจะนำขึ้นฉ่ายมาวางบนตัวปู เพื่อช่วยดับกลิ่นคาว
  4. ให้เวลานึ่งปูประมาณ 8-10 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดของปู หากตัวใหญ่อาจใช้เวลามากกว่าตัวเล็ก แต่อย่านึ่งนานเกินไป เพราะ จะทำให้เนื้อปูแข็งและไม่หวาน
  5. พอครบเวลายกหม้อลง ปิดไฟ และวางใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้เลยจ้า

เคล็ดลับการเลือกซื้อปู

หลายท่านอาจจะเคยซื้อปูตามตลาดแต่ด้วยความเลือกไม่เป็น มักถูกแม่ค้าหลอกและได้ปูที่มีเนื้อน้อย วันนี้เรามีวิธีการเลือกซื้อปูให้สดใหม่มาฝากกันค่ะ

  1. พอพูดถึงปู คนมักจะนึกถึงทะเล ซึ่งประมาณเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม จะเป็นฤดูกาลกินปู จะเป็นช่วงที่ปูม้ามีเนื้อแน่นที่สุด
  2. ปูจะมี 2 เพศ คือ เพศผู้และเพศเมีย ซึ่งวิธีการดูเพศให้คุณหงายตัวปูขึ้น สังเกตที่จับปิ้งที่อยู่ตรงท้องของปู เพศผู้จะมีจับปิ้งที่เรียวเล็ก สำหรับคนที่ชอบทานไข่ปูให้เลือกซื้อเพศเมียจะมีจับปิ้งกลมขนาดกว้าง
  3. ถ้าอยากได้ปูที่เนื้อแน่นให้เอานิ้วหัวแม่มือกดลงตรงบริเวณส่วนท้อง ถ้ากดแล้วแข็ง ไม่บุ๋ม แสดงว่าปูตัวนี้เนื้อแน่น
  4. ให้เลือกปูตัวที่มีน้ำหนักมาก เราจะได้เนื้อปูที่แน่น เพราะปกติปูจะมีน้ำในตัวมาก หากถูกจับขึ้นมาทิ้งไว้นาน น้ำจะระเหยออกตลอดเวลา ทำให้น้ำหนักเบาลง เนื้อปูที่ได้จะไม่แน่น
  5. สีของตัวปูจะต้องสดใส แต่ถ้าชอบทานไข่ปู สีของปูจนเข้มยิ่งเข้มไข่ยิ่งมาก
  6. ควรเลือกซื้อปูขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ยิ่งถ้ากล้ามยังขยับและมีแรงแสดงว่า เพิ่งโดนจับมาไม่นานนี้มั่นใจได้ว่า สดแน่ๆ

สูตรเมนูวิธีนึ่งปูเป็นยังไงกันบ้างค่ะ ขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยากเลย ไม่ต้องไปไกลถึงทะเลแล้ว อย่าลืมนำไปลองทำทานกับครอบครัวกันนะคะ

The post เคล็ดลับ!! วิธีนึ่งปูม้า ปูทะเลให้อร่อยเด็ด เจ็ดย่านน้ำ appeared first on คลังปัญญา.คอม.

]]>
เคล็บลับ วิธีชงชาร้อน ชาเย็น สำหรับชารูปแบบต่างๆให้หอมอร่อย /%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%8a%e0%b8%87%e0%b8%8a%e0%b8%b2/ Mon, 21 Jan 2019 17:00:21 +0000 /?p=4841 สำหรับเมนูเครื่องดื่มสำหรับสุขภาพ ที่ได้รับความนิยมมาตั […]

The post เคล็บลับ วิธีชงชาร้อน ชาเย็น สำหรับชารูปแบบต่างๆให้หอมอร่อย appeared first on คลังปัญญา.คอม.

]]>
เคล็บลับ วิธีชงชาร้อน ชาเย็น สำหรับชารูปแบบต่างๆให้หอมอร่อย

สำหรับเมนูเครื่องดื่มสำหรับสุขภาพ ที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ในอดีตและเป็นเครื่องดื่มที่สามารถที่จะดูแลสุขภาพได้อย่างแท้จริง ก็คือ ชา นั่นเอง และอย่างที่หลายๆคนนั้นทราบกันดีว่าในเรื่องของชานั้นเป็นวัฒนธรรมของแทบทุกประเทศเลยทีเดียว ทั้งฝั่งยุโรป เอเชียและที่อื่นๆ ซึ่งแต่ละที่นั้นก็มีวิธีที่แตกต่างกันไปบ้าง แต่แน่นอนว่าสำหรับวิธีการชงชาที่เรียกได้ว่าเป็นมาตรฐานสำหรับการชงชานั้น มีดังนี้

วิธีชงชาโสม และชาอูหลงหอมหมื่นลี้

สำหรับชาแบบนี้นั้นจะเหมาะในรูปแบบการดื่มแบบเย็น เพราะเมื่อยิ่งกินเย็นก็จะยิ่งชื่นใจมากยิ่งขึ้น โดยมีวิธีชงคือ

  • เตรียมน้ำสะอาดใส่ภาชนะให้เรียบร้อย โดยจะต้องใช้ปริมาณ 150-200
  • นำใบชาใส่ 2-3 ช้อนชา
  • หลังจากที่นำใบชาใส่กาเตรียมไว้ให้แช่ประมาณ 5 นาที แล้วหลังจากนั้นก็ให้นำไปใส่น้ำแข็งได้ แต่ถ้าหากว่าอยากดื่มแบบร้อนก็แช่เพียงแค่ 1 นาที

วิธีชงชาเขียวผงมัจฉะ

ชาเขียวมัจฉะ เป็นชาที่มีตะกอน เนื่องจากเมื่อชงเสร็จและทิ้งไว้สักพัก เศษใบชาจะเริ่มตกตะกอนรวมตัวกันที่ด้านล่างภาชนะนั่นเอง โดยสำหรับตะกอนของชาเขียวมัจฉะนั้นสามารถที่จะดื่มได้เพราะถือว่าเป็นไฟเบอร์ที่จะช่วยในการย่อยได้ดี เทียบได้กับการที่ทานผักเลยทีเดียวแต่แตกต่างกันแค่ได้รับการบดมาแล้ว โดยมีวิธีชง คือ

  • เตรียมน้ำสะอาดใส่ภาชนะให้เรียบร้อย โดยจะต้องใช้ปริมาณ 150-200
  • ใช้น้ำที่ร้อน70-80 องศา โดยอาจจะเป็นน้ำที่กดจากกระติกน้ำร้อนก็ได้เช่นกัน
  • หลังจากนั้นใช้ใบชา ½ -1 ช้อนชา

เพียงแค่นี้ก็สามารถนำมาใส่น้ำร้อนหรือนมสดดื่มได้ตามปกติ และนอกจากนี้นั้นอาจจะชงกับน้ำผึ้ง ก็คือ

  • เตรียมขวดแบบมีฝาปิด
  • หลังจากนั้นใส่ผงชา 1 ช้อนชา แล้วใส่น้ำแข็ง ครึ่งขวด
  • ใส่น้ำผึ้งที่ละลายน้ำร้อนเพียงเล็กน้อยลงไปในขวด
  • เติมน้ำเย็น ¾ ของขวดแล้วนำมาเขย่าจนเกิดฟองแล้วค่อยนำมารินใส่แก้ว

วิธีชงชามะลิ ชาเขียว ชาอูหลง

ชาเหล่านี้เป็นชาที่ควรดื่มแบบเย็น และนำมาผสมน้ำตาล สามารถที่จะทำให้ชื่นใจและสดชื่นได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว มีวิธีการชงคือ

  • ใช้น้ำที่อุณหภูมิ 70-80 องศา
  • ชารูปแบบนี้นั้นไม่ต้องตวง ให้กะเอาประมาณ 2-3 หยิบมือ ขึ้นอยู่กับความเข้มหรืออ่อนที่ชอบ
  • เติมน้ำให้ท่วมใบชาพอประมาณ และควรรินทิ้งโดยทันทีซึ่งถือเป็นการกระตุ้นชาเขียว แต่ถ้าหากว่าต้องการที่จะดื่มแบบเย็นก็สามารถที่จะทำได้ตอนนี้เลย

ดังนั้นสำหรับวิธีในการชงชา ไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่อย่างที่หลายๆคนนั้นคิดว่าอาจจะเป็นที่ขั้นตอนที่ยุ่งยาก แต่สำหรับในความเป็นจริงนั้นบอกได้เลยว่าขั้นตอนอาจจะไม่ยุ่งยาก แต่ในส่วนที่ยุ่งยากนั้นก็คือความพิถีพิถันที่คุณจำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีสำหรับการชงชา แต่แน่นอนว่าสำหรับวิธีชงชานั้นก็มีขั้นตอนง่ายๆเพียงเท่านี้ หลังจากนี้เราก็สามารถที่จะชงชาดื่มเองง่ายๆได้ที่บ้านกันแล้วครับ

The post เคล็บลับ วิธีชงชาร้อน ชาเย็น สำหรับชารูปแบบต่างๆให้หอมอร่อย appeared first on คลังปัญญา.คอม.

]]>
วิธีทําข้าวผัดไข่ สูตรเด็ดเคล็บลับ ผัดข้าวอย่างไรให้อร่อยเหาะ /%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%97%e0%b9%8d%e0%b8%b2%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%9c%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b9%84%e0%b8%82%e0%b9%88/ Sun, 20 Jan 2019 16:52:10 +0000 /?p=4805 ข้าวผัดไข่เป็นเมนูที่ทำง่าย ใช้เวลาทำไม่นาน วัตถุดิบสาม […]

The post วิธีทําข้าวผัดไข่ สูตรเด็ดเคล็บลับ ผัดข้าวอย่างไรให้อร่อยเหาะ appeared first on คลังปัญญา.คอม.

]]>
วิธีทําข้าวผัดไข่ เคล็บลับผัดข้าวอย่างไรให้อร่อยเหาะ

ข้าวผัดไข่เป็นเมนูที่ทำง่าย ใช้เวลาทำไม่นาน วัตถุดิบสามารถหาได้ตามท้องตลาด และราคาก็ไม่แพงเลย เมนูนี้อาจเป็นที่โปรดปรานของทุกเพศทุกวัย เพราะ อาหารมีรสชาติหวานจากไข่ รสไม่จัด และมีคุณประโยชน์มากมาย วันนี้เรามีเคล็ดลับการทำข้าวผัดไข่มาฝากกันนะคะ

วัตถุดิบ

  • ข้าวสวย 1 ถ้วย
  • ไข่ไก่ 1-2 ฟอง
  • กระเทียมสับ 1 ช้อนชา
  • หอมใหญ่สับ 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ต้นหอมซอย 1/2 ช้อนโต๊ะ และผักชี 2-3 ก้าน
  • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
  • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยป่น

***เครื่องปรุง อาจเพิ่มหรือลดตามความเหมาะสม

ขั้นตอนการทําข้าวผัดไข่

  1. เริ่มต้นให้นำน้ำมันใส่กระทะแล้วตั้งไฟ เปิดไฟปานกลาง รอให้น้ำมันเริ่มร้อนแล้วใส่กระเทียมลงไปผัดจนมีกลิ่นหอม จากนั้นตอกไข่ลงกระทะคนให้ไข่แดงแตก (อาจนำไข่ตอกใส่ชามแล้วตีให้เข้ากันก่อน) ผัดไข่สุกพอประมาณ และใส่หอมใหญ่สับ กับข้าวสวยตามลงไป
  2. จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำปลา และซีอิ๊วขาว ชิมรสตามใจชอบ
  3. ให้ใส่ต้นหอมซอยผัดวัตถุดิบเข้ากัน จากนั้นก็ปิดไฟ
  4. เสิร์ฟใส่จาน โรยหน้าด้วยผักชีและพริกไทยป่น เพื่อเพิ่มสีสันให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น

นอกจากนี้เมนูข้าวผัดไข่ยังสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยไมโครเวฟ เหมาะสำหรับเด็กหอมากๆ เลย วัตถุดิบที่ใช้เหมือนกันกับข้างต้นเลย แต่เรามาดูวิธีการปรุงกันเถอะ

  1. นำข้าวสวยใส่กล่องอาหารสำหรับใส่ไมโครเวฟ
  2. ตอกไข่ใส่ลงไป คนให้ไข่แตกทั่วหน้าข้าว
  3. นำกล่องเข้าไมโครเวฟ ใช้ไฟประมาณ 800 วัต ตั้งเวลา 1-2 นาที
  4. เมื่อสุกแล้วนำออกมาปรุงรส ใส่ซอสปรุงรส พริกไทยป่น และโรยด้านด้วยต้นหอมซอยกับผักชี
  5. คลุกเคล้าให้ทั่ว นำเสิร์ฟได้เลย

เคล็ดลับความอร่อย

– ข้าวสวยที่ใช้ควรเป็นข้าวเย็น จะอร่อยกว่าข้าวที่หุงสุกใหม่ๆ เพราะข้าวที่ค้างคืนจะไม่มีความชื้น เมื่อนำไปผัดจะทำให้ข้าวเป็นเมล็ด ไม่แฉะ และไม่ติดกระทะ

– ไข่ไก่ ควรเลือกขนาดเบอร์ 0 หรือ 1 เพราะจะได้ปริมาณไข่ขาวที่มากขึ้น ทำให้ข้าวผัดมีสีสันน่ารับประทาน

– ผักที่ใส่ เช่น หอมหัวใหญ่ ต้นหอม และกระเทียม ให้หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หรือหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า จะทำให้ข้าวผัดน่ารับประทานและอร่อยยิ่งขึ้น

– ในการผัดข้าวควรใช้ไฟปานกลาง หากใช้ไฟแรงข้าวอาจจะไหม้และแข็ง

เห็นมั้ยค่ะว่า ขั้นตอนการทำไม่ยากเลย เมนูนี้เหมาะสำหรับการทำเป็นอาหารในมื้อเช้า เพราะเป็นช่วงเวลาที่เร่งรีบ ทำให้คุณแม่บ้านจัดเตรียมวัตถุดิบได้ง่าย และเป็นเมนูที่เหมาะสำหรับคุณหนูๆ ที่จะทานระหว่างนั่งรถไปโรงเรียน รู้อย่างนี้แล้ว อย่าลืมซื้อไข่ไก่ไว้ติดตู้เย็นที่บ้านกันนะคะ

The post วิธีทําข้าวผัดไข่ สูตรเด็ดเคล็บลับ ผัดข้าวอย่างไรให้อร่อยเหาะ appeared first on คลังปัญญา.คอม.

]]>