ตะไคร้ เป็นพืชสมุนไพรในครัวที่เรารู้จักกันดี หาซื้อได้ง่าย มีขายอยู่ตามตลาดสดทั่วไป อีกทั้งยังสามารถปลูกไว้ในสวนหลังบ้านก็ได้ มีลักษณะเป็นพืชล้มลุกตระกูลหญ้า ลำต้นตั้งตรงอยู่เป็นกอ ใบเรียวยาว ปลายใบมีขนหนาม นิยมนำมาปรุงอาหารไทยและสกัดเป็นยาสมุนไพร ซึ่งซ่อนคุณประโยชน์ไว้มากมาย วันนี้เราจะมาพูดถึงสรรพคุณและประโยชน์ของตะไคร้กันนะคะ

ตะไคร้ ภาษาอังกฤษ: Lemongrass
ตะไคร้ ชื่อวิทยาศาสตร์: Cymbopogon citratus

สรรพคุณของตะไคร้

1. ช่วยให้คุณเจริญอาหาร แก้อาการเบื่ออาหาร เป็นยาบำรุงธาตุ เนื่องจากนำเหง้าและลำต้นมาปรุงอาหาร เช่น ต้มยำ ต้มข่า ยำ และแกงอ่อม เป็นต้น ซึ่งจะทำให้อาหารเหล่านั้นมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ น่ารับประทานมากขึ้น นอกจากอาหารแล้ว ยังสามารถทำเมนูเครื่องดื่มก็ได้ ซึ่งช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ช่วยป้องกันและลดแก๊สในลำไส้ได้ เช่น ชาตะไคร้ หรือน้ำตะไคร้นั่นเอง
2. มีคุณสมบัติในการล้างสารพิษในร่างกาย ช่วยขับปัสสาวะ จะทำให้คุณปัสสาวะบ่อยขึ้น สารพิษและกรดยูริคนี้ก็จะถูกขับออกจากร่างกาย และจะเข้าไปทำความสะอาดระบบย่อยอาหาร ตับ และไตแทน ทำให้ระบบย่อยอาหารสะอาดขึ้น และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. น้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้หอม ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย ช่วยลดอาการอักเสบ และบรรเทาอาการปวดต่างๆ ได้ เช่น ปวดฟัน ปวดตามข้อ ปวดกล้ามเนื้อ เมื่อคุณรู้สึกปวดเมื่อยร่างกาย ลองหาน้ำมันหอมระเหยตะไคร้มาถูนวดจะช่วยบรรเทาอาการได้มากเลยทีเดียว

ประโยชน์ของตะไคร้

1. ช่วยดับกลิ่นคาวในอาหารได้อย่างดี ถือเป็นตัวช่วยหนึ่งให้กับแม่ครัวในการปรุงอาหาร และเพิ่มกลิ่นหอมให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น ซึ่งแต่ละเมนูอาจจะมีกลิ่นคาวจากเนื้อสัตว์ต่างๆ อย่างปลา กุ้ง หรือปลาหมึก เป็นต้น
2. นำมาทำผลิตภัณฑ์สมุนไพร ด้วยกลิ่นหอมที่มีเอกลักษณ์ และใบตะไคร้หอมมีน้ำมันหอมระเหยอยู่ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยไล่แมลง จึงนิยมนำไปเป็นส่วนผสม อาทิ ธูปและเทียนหอมกลิ่นตะไคร้ ยากันยุง สเปรย์หอม และน้ำมันหอมระเหย นอกจากนี้ ถ้าบริเวณรอบๆ บ้านของคุณมียุง ลองนำตะไคร้มาปลูกกับพืชชนิดก็สามารถช่วยป้องกันยุง โดยไม่ต้องพึงสารเคมีอื่นๆ
3. ด้านความสวยงาม เรามีสูตรหมักผมมาฝากกันนะคะ ให้คุณนำใบตะไคร้ 4-5 ใบมาคั้นกับน้ำเปล่า เอาแต่น้ำมาชโลมผมให้ทั่วศีรษะ หมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออก หมั่นทำเป็นประจำ จะช่วยบำรุงเส้นผม ลดปัญหาผมร่วง ลดรังแค ช่วยป้องกันผมแห้งแตกปลาย และอาการคันหนังศีรษะได้ แต่ปัจจุบันมีการนำตะไคร้มาเป็นส่วนผสมทำแชมพู ครีมนวด และทรีทเมนท์ โดยมีเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายยี่ห้อ ให้คุณได้เลือกใช้นั่นเอง

The post ประโยชน์และสรรพคุณของตะไคร้ พืชสมุนไพรใกล้ตัว คุณประโยชน์หลากหลาย appeared first on คลังปัญญา.คอม.

เมื่อพูดถึง “บัวบก” หรือ “ใบบัวบก” หลายๆ คนจะรู้ดีว่ามันช่วยแก้อาการช้ำใน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ใบบัวบกยังมีประโยชน์อีกมากมาย มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Gotu kola และมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Centella asiatica เป็นพืชสมุนไพรล้มลุก ขึ้นรวมกันเป็นกอติดๆ กัน และเลื้อยไปตามพื้นดิน มีลักษณะเป็นใบเดี่ยว มีรูปร่างค่อนข้างกลม หรือมีลักษณะคล้ายไต ขอบใบหยัก และผิวด้านนอกเรียบ นิยมรับประทานสดมากกว่านำไปปรุงอาหาร บัวบกมีคุณค่าทางอาหารสูง อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีสรรพคุณในการรักษาโรค เป็นยาได้ทั้งต้นสด ใบและเมล็ด จึงได้สมญานามว่า “ยาสุดยอดแห่งชีวิต”

สรรพคุณของใบบัวบก

1. ช่วยสมานแผลและรักษาโรคผิวหนัง เพราะในบัวบกมีสารไตรเตอร์ปินอยด์ที่ช่วยเร่งการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นให้แผลสมานตัว ทำให้เลือดเย็นและหยุดเลือดได้เร็วขึ้น แล้วยังช่วยต่อต้านการเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย
2. ช่วยขับพิษร้อนและความชื้น เนื่องจากรสขมและมีฤทธิ์เย็น จึงช่วยรักษาโรคที่มีสาเหตุจากความชื้นกับความร้อนได้ เช่น

• โรคนิ่วทางเดินปัสสาวะ เมื่อคุณปัสสาวะจะรู้สึกแสบขัด มีสาเหตุจากการอักเสบ และการสะสมตัวเป็นก้อนนิ่วเล็กๆ ซึ่งเกิดจากความร้อนชื้นของทางเดินปัสสาวะ
• โรคบิด จะมีอาการปวดเบ่งอุจจาระ หรือมีมูกมีเลือดปนออกมา ซึ่งเกิดจากภาวะร้อนชื้นของลำไส้

3. ลดความดันโลหิต การรับประทานใบบัวบกจะไปทำให้หลอดเลือดดำและเส้นเลือดฝอยแข็งแรงขึ้น แล้วยังช่วยลดภาวะความเครียดที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดความดันโลหิตสูง

ประโยชน์ของใบบัวบก

1. นำมาสกัดเป็นยาทั้งในรูปแบบผงและเม็ดแคปซูล มีสรรพคุณในการช่วยบำรุงสมอง ช่วยรักษาแผลผ่าตัด แผลสด ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือฝีหนองได้ และยังช่วยป้องกันการเกิดแผลเป็นอีกด้วย
2. ด้านความสวยความงาม ปัจจุบันนิยมนำใบบัวบกมาสกัดทำเครื่องสำอาง ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดการระคายเคืองผิว ช่วยรักษาสิว ผ้า ทำให้ผิวหน้า ผิวกายขาวกระจ่างใสและเต่งตึง ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ กระตุ้นการไหลเวียนเลือดบริเวณหนังศีรษะ และช่วยบำรุงให้รากผมแข็งแรงดกดำเงางามมากยิ่งขึ้น
3. นำมาประกอบอาหาร เป็นเครื่องเคียงกับเมนูน้ำพริกต่างๆ หรือเป็นผักแกล้มในอาหารอีสานอย่างน้ำตก ลาบ และซุปหน่อไม้ก็เข้ากันได้ดี นอกจากนี้ยังสามารถทำเป็นเครื่องดื่มได้ เพราะมีฤทธิ์เป็นยาเย็นดับร้อน ช่วยบำรุงร่างกาย แก้กระหาย แก้อาการอ่อนเพลียเหนื่อยล้า เมื่อดื่มแล้วจะรู้สึกผ่อนคลาย แถมช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับ และยังเป็นยาระบายอ่อนๆ อีกด้วย ทั้งนี้วิธีทำน้ำใบบัวบกก็ไม่ยาก เพียงคุณนำใบบัวบกไปคั้นน้ำแล้วนำมาดื่ม อาจจะผสมกับน้ำผึ้ง หรือผสมกับน้ำผลไม้อื่น ๆ เพื่อลดความเหม็นเขียวและรับประทานได้ง่ายขึ้น

ทราบถึงสรรพคุณและประโยชน์ที่มากมายแล้ว วันนี้คุณลองหาใบบัวบกมารับประทานกันนะคะ แต่ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม หากรับประทานมากเกินไป จะทำให้ธาตุในร่างกายเสียสมดุลและเป็นอันตรายได้

The post ใบบัวบก มีสรรพคุณ ประโยชน์และวิธีใช้อย่างไร ทําอะไรได้บ้าง? appeared first on คลังปัญญา.คอม.

วันนี้เรามาว่ากันเรื่อง “ขมิ้นชัน” กันนะคะ ขมิ้นชันเป็นสมุนไพรสีเหลืองๆ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Curcuma longa เป็นพืชสมุนไพรที่มีมาแต่โบราณ เรามักคุ้นเคยกันดี สามารถนำไปประกอบอาหาร หรือแต่งสี แต่งกลิ่นให้อาหารจานเด็ดของคุณ ไม่ว่าจะเป็นแกงไตปลา แกงกะหรี่ หรือข้าวหมกไก่ ฯลฯ นอกจากนี้ขมิ้นชันอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก เป็นต้น และขมิ้นชันยังมีสรรพคุณทางยาที่รักษาอาการและโรคต่างๆ ได้อีกด้วย

สรรพคุณของขมิ้นชัน

1. มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยในการชะลอวัยและชะลอการเกิดริ้วรอย ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ผิวหนังมีสุขภาพดีแข็งแรง
2. ช่วยในการสมานแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น น้ำมันหอมระเหยของขมิ้นชัน เป็นตัวช่วยเร่งการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อที่เป็นแผล นอกจากจะช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารแล้ว ยังช่วยป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหารด้วย
3. รักษาอาการท้องเสียและอุจจาระร่วง โดยนำผงขมิ้นชันผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นยาลูกกลอนรับประทานหลังอาหารและก่อนนอน ครั้งละ 3-5 เม็ด วันละ 3 เวลา
4. น้ำมันหอมระเหยของขมิ้น มีฤทธิ์ช่วยลดการบีบตัวของลำไส้ ช่วยขับลม แก้อาการอาเจียน และกระตุ้นการสร้างน้ำดีได้ ซึ่งน้ำดีมีความสำคัญในกระบวนการช่วยย่อยและดูดซึมอาหารของร่างกาย

ประโยชน์ของขมิ้นชัน

นอกจากการรักษาโรคต่างๆ ด้วยการรับประทานขมิ้นในรูปแบบอาหารและยาแล้ว ขมิ้นชันยังช่วยในเรื่องการบำรุงผิวพรรณอีกด้วยนะ คุณรู้หรือไม่ว่า ในขมิ้นชันนี้มีสาร Curcumin และมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งมีฤทธิ์ในการยังยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราได้

ประโยชน์ของขมิ้นชันด้านความสวยความงาม ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของขมิ้นอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสบู่ ครีมบำรุง หรือครีมพอกหน้า เป็นต้น แต่วันนี้เรามีสูตรบำรุงผิวจากขมิ้นชันมาฝากกันนะคะ

1. สูตรรักษาสิว นำผงขมิ้นชันมาผสมกับน้ำมะนาว คนให้เข้ากัน แล้วนำมาแต้มสิวหรือพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด สูตรนี้จะช่วยให้สิวอักเสบยุบลง และรอยดำรอยแดงจากสิวจางลงได้
2. สูตรลดเลือนรอยด่างดำตามร่างกาย นำผงขมิ้นชันมาผสมกับมะขามเปียก และนมสด ผสมให้เข้ากันแล้วเอามาขัดเบาๆ ตามลำตัว ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วค่อยอาบน้ำตามปกติ สูตรนี้ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ขาวผ่อง และช่วยลดเลือนจุดด่างดำตามร่างกายให้หายไปได้
3. สูตรแก้ปัญหาหน้ามัน นำผงขมิ้นชันมาผสมกับน้ำส้มคั้นสด และน้ำผึ้ง คนให้เข้ากัน แล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด สูตรนี้จะช่วยลดปัญหาหน้ามันให้กับคุณสาวๆ ได้ค่ะ

ขมิ้นชัน ถึงแม้ว่าจะประโยชน์มากมาย แต่ถ้าคุณใช้ในปริมาณที่เกินความต้องการของร่างกาย ก็ย่อมจะเกิดผลเสียได้ หากใช้ประกอบอาหารก็ควรใส่ในปริมาณที่พอเหมาะ ก็จะไม่เป็นอันตราย แต่ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่สกัดแล้ว ก็ควรศึกษาดูวิธีการใช้ ดูวันที่ผลิต วันหมดอายุ และดูคำแนะนำบนฉลากก่อนตัดสินใจซื้อ จึงจะได้ประโยชน์และสรรพคุณจากสมุนไพรสูงสุด

The post ขมิ้นชัน มีประโยชน์ สรรพคุณ และวิธีใช้อย่างไร ทําอะไรได้บ้าง? appeared first on คลังปัญญา.คอม.

วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่อง “ใบเตย” หรือ “เตยหอม” คงไม่มีใครไม่รู้จัก ใบเตย หรือ ชื่อภาษาอังกฤษ Pandan Leaves, Pandom Wangi, Fragrant Pandan ใบเตยหอมเป็นไม้ยืนต้นพุ่มเล็ก ขึ้นเป็นกอ ลำต้นอยู่ใต้ดิน เป็นใบเลี้ยงเดี่ยวมีลักษณะเรียวยาว ขอบใบจะเรียบมีผิวมัน ด้วยกลิ่นหอมและสีสันของใบเตยนี้เอง จึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นที่นิยม ผู้คนจะนำมาประกอบอาหารทั้งคาวและหวาน นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณที่ช่วยเรื่องสุขภาพอีกด้วยนะ

สรรพคุณของใบเตย

– ใบ นำมาทำเป็นน้ำใบเตย เมื่อคุณดื่มแล้วจะรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าขึ้น แล้วยังช่วยรักษาอาการท้องอืด บรรเทาอาการอาหารไม่ย่อย แก้กระหายน้ำ ช่วยขับปัสสาวะ แก้ร้อนใน ลดระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยฟื้นฟูอาการอ่อนเพลียของร่างกาย

– น้ำมันหอมละเหยจากใบเตย เมื่อคุณได้สูดกลิ่นหอมของใบเตย คุณจะรู้สึกผ่อนคลาย สามารถลดอาการปวดหัว และการเกร็งของร่างกายในส่วนต่างๆ ได้

ประโยชน์ของใบเตย

1. นำมาทำอาหารคาว จะช่วยดับกลิ่นคาว และเพิ่มกลิ่นหอมให้รู้สึกน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น เช่น ไก่ทอดใบเตย หากคุณต้องใช้น้ำมันซ้ำอีกรอบ ให้นำใบเตยสดหั่นชิ้นเล็กๆ ใส่ลงไปทอดด้วย จะช่วยให้น้ำมันไม่มีกลิ่นเหม็นหืน หรือจะใช้ใบเตยรองก้นหวดขณะนึ่งข้าวเหนียว เมื่อข้าวเหนียวสุกแล้วจะทำให้มีกลิ่นหอมมากขึ้น
2. เมนูขนมหวาน สีเขียวของใบเตยเป็นสีของคลอโรฟิลล์ คุณสามารถนำมาใช้แต่งเป็นสีขนมได้ ซึ่งช่วยให้ขนมน่ารับประทานยิ่งขึ้น อย่างขนมไทยๆ เช่น ลอดช่องน้ำกะทิ ขนมชั้น ขนมต้ม ขนมเปียกปูน และขนมถ้วย เป็นต้น
3. ในเรื่องความสวยความงาม สาวๆ สามารถบำรุงผิวหน้า ด้วยทรีตเมนต์จากใบเตย วิธีการทำให้นำใบเตยมาล้างให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำมาปั่นรวมกับน้ำสะอาดจนละเอียด จนได้ครีมข้นเหนียวแล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด หรือจะนำใบเตยสดมาตำหยาบๆ แล้วนำไปพอกร่างกาย ก็จะช่วยรักษาโรคผิวหนังได้ดีอีกด้วย
4. ช่วยดับกลิ่นภายในบ้าน และช่วยไล่ยุง โดยคุณนำใบเตยมาประดิษฐ์เป็นช่อดอกไม้ หรือจะนำใบเตยมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นนำไปใส่ในถุงตาข่าย แล้วเอาไปวางในตู้เสื้อผ้า ตู้กับข้าว ตู้รองเท้า หรือในห้องนอน ห้องรับแขกก็ได้ กลิ่นหอมของใบเตยเมื่อสูดดมเข้าไปจะช่วยผ่อนคลาย อีกทั้งยังช่วยไล่แมลงสาบด้วย

ใบเตยเป็นพืชสมุนไพรอีกชนิดที่มีความน่าสนใจ นอกจากช่วยสร้างสีสันและกลิ่นหอมในการนำมาทำอาหารและขนมแล้ว สรรพคุณของใบเตยก็เด่นในเรื่องสุขภาพไม่แพ้สมุนไพรชนิดอื่นๆ เลย หากพื้นที่ที่บ้านยังมีเหลือ เราอยากให้คุณลองปลูกใบเตยกันดูนะคะ

The post ใบเตยหอม มีสรรพคุณ ประโยชน์และวิธีใช้อย่างไร ทําอะไรได้บ้าง? appeared first on คลังปัญญา.คอม.

เมื่อเอ่ยถึงสรรพคุณของใบย่านางต้องยอมรับว่ามีมากมายจริงๆ ในตำราสมุนไพรถือว่าใบย่านางเป็นยาอายุวัฒนะ นอกจากจะมีวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายแล้ว ใบย่านางยังนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงรสเพื่อเพิ่มความกลมกล่อมของอาหารอีกด้วย อาทิ แกงหน่อไม้ ซุปหน่อไม้ เป็นต้น วันนี้เรามีสรรพคุณและประโยชน์ของใบย่านางที่ดีต่อสุขภาพมาฝากกัน

สรรพคุณใบย่านาง

ชื่อวิทยาศาสตร์ :   Tiliacora triandra  (Colebr.) Diels
ชื่อสามัญ :   Bamboo grass
วงศ์ :   Menispermaceae

ในด้านสุขภาพและความงาม ใบย่านางให้ผลดีต่อสุขภาพหลายด้านด้วยกัน อาทิ ช่วยสร้างภูมิต้านทานโรคในร่างกาย โดยการปรับสมดุล ฟื้นฟูเซลล์ต่างๆ ให้แข็งแรง รวมถึงการเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่เป็นมะเร็งเป็นอย่างมาก เพราะช่วยป้องกันและลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งได้ดี หากคุณดื่มน้ำใบย่านางเป็นประจำ จะช่วยให้ก้อนมะเร็งฝ่อและเล็กลง สำหรับสรรพคุณด้านอื่นที่เห็นผลอย่างชัดเจนในการรักษาอาการวิงเวียนศรีษะ หน้ามืด เป็นลม คลื่นเหียนอาเจียนได้ รวมถึงใช้ในการป้องกันโรคภูมิแพ้ ไอจาม มีน้ำมูกและเสมหะ ใบย่านางยังมีสรรพคุณในการช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจและใช้ในการบำรุงรักษาตับและไตได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้สำหรับคนที่มีอาการอัมพฤกษ์ ใบย่านางก็ช่วยรักษาและบำบัดอาการได้ด้วยเช่นกัน

หากคุณรู้สึกว่ามีอาการอ่อนล้าหรืออ่อนเพลียนอนเท่าไรก็ไม่หายลองกินใบย่านางดู อาการจะดีขึ้น สำหรับคนที่มีอาการเกร็ง ชัก หรือเป็นตะคริวบ่อยๆ ลองหาใบย่านางมารับประทานดูคุณจะพบว่าอาการต่างๆ จะดีขึ้นและหายไป นอกจากนี้ใบย่านางยังช่วยป้องกันไม่ให้เส้นเลือดฝอยในร่างกายแตกใต้ผิวหนังได้ง่ายอีกด้วย เรียกว่าใบย่านางเป็นสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณที่ครอบจักรวาลจริงๆ

สำหรับสาวๆ ที่มีปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า ใบย่านางสามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากในใบย่านางมีสารต้านอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมากจึงสามารถช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรอยและความแก่ชราได้อย่างเห็นผล  นอกจากนี้ใบย่านางยังให้ผลในการลดความอ้วนช่วยในการเผาผลาญไขมันและนำไปใช้เป็นพลังงานทำให้น้ำหนักลดลงและหุ่นดีขึ้นอย่างปลอดภัยอีกด้วย

ประโยชน์ของใบย่านาง

สำหรับประโยชน์ของใบย่านางในด้านอื่นๆ นั้น เราจะเห็นว่ามีใบย่านางแบบแคปซูล ซึ่งก็สะดวกในการรับประทานและยังมีสรรพคุณอย่างครบถ้วนเพียงแต่นำมาแปรรูปให้รับประทานสะดวกและง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังนำมาแปรรูปเป็นสบู่ใบย่านางที่เป็นอีกทางเลือกของผู้ใช้ที่ได้ใช้สบู่ที่มาจากสมุนไพรแท้ๆ รวมถึงการนำมาทำเป็นแชมพูสระผมที่มีคุณสมบัติในการชะลอการเกิดผมหงอก ตลอดจนการนำใบย่านางมาทำเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรบำรุงร่างกายได้อีกด้วย

ของดีของเมืองไทยอยู่ใกล้ๆ ตัวเรานี่เองได้รับการพิสูจน์แล้วในเรื่องของสรรพคุณและประโยชน์ที่คนส่วนใหญ่ให้การยอมรับว่าดีจริง ที่ทำให้สุขภาพแข็งแรง อีกทั้งมีราคาไม่แพงและปลอดภัย ของดีๆ อย่างนี้เห็นทีจะต้องรีบไปหาใบย่านางมารับประทานเป็นประจำแล้วล่ะ

The post สรรพคุณและประโยชน์ของใบย่านางที่มีคุณค่าเอนกอนันต์ต่อสุขภาพ appeared first on คลังปัญญา.คอม.

เคยไหมที่บางครั้งอยู่ๆ ผิวหนังก็มีรอยฟกช้ำแบบไม่รู้ตัว อาจเกิดจากความไม่ตั้งใจ เดินไปชนโต๊ะหรือเก้าอี้ ทำให้มีรอยช้ำที่ศอกบ้าง เข่าบ้าง ถ้าเผลอไปโดนก็รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ แถมเห็นม่วงๆ มาแต่ไกล คุณอย่ากังวลไปเลย รอยฟกช้ำนี้จะหายไปเอง แต่ใช้เวลาค่อยข้างนาน จะเอารองพื้นทาก็ปิดไม่มิด ถ้าวันนั้นต้องไปออกงานแล้วด้วย จะทำยังไงดี? อยากรู้วิธีแก้ไข ฟังทางนี้เลย

วิธีรักษารอยฟกช้ำอย่างเร่งด่วน

1. ใช้น้ำแข็งประคบ เอาง่าย ๆ แบบนี้ล่ะ น้ำแข็งจะช่วยให้เส้นเลือดบริเวณที่ฟกช้ำหดตัว รอยจะไม่ขยายขึ้น ถือเป็นวิธีจำกัดรอยเอาไว้ไม่ให้แผ่กว้างให้ดูน่าเกลียดนั่นเอง หรือเราจะเปลี่ยนจากน้ำแข็งเป็นเจลทำความเย็นก็ได้ เลือกเอาที่เราสะดวกค่ะ
2. ประคบทิ้งไว้ไม่เกิน 15 นาทีต่อชั่วโมง
3. หลังจาก 24 ชั่วโมงแล้วให้ประคบร้อน เพื่อทำให้เลือดบริเวณนั้นไหลเวียนได้ดีขึ้น
4. การประคบร้อนสามารถใช้ถุงน้ำร้อนหรือขวดบรรจุน้ำร้อนที่พันด้วยผ้า เพื่อป้องกันความร้อนที่ร้อนจนเกินไปมาประคบ
5. ให้ประคบร้อนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
6. หากรอยฟกช้ำเกิดขึ้นบริเวณแขนหรือขา ให้ยกแขนหรือขาให้สูงเพื่อให้เลือดไหลเวียนสะดวก แต่ถ้าเกิดบริเวณลำตัวล่ะก็ ไม่ต้องยกก็ได้ค่ะ จะลำบากไปเนอะ

การดูแลรักษารอยฟกช้ำเพิ่มเติม

เราควรฟื้นฟูร่างกายเพื่อให้รอยฟกช้ำหายเร็วขึ้น หลังจากที่เราทำตามขั้นตอนด้านบนแล้วให้ปฏิบัติตามนี้ด้วยนะคะ

1. ทานอาหารที่มีวิตามินซีและฟลาโวนอยด์สูง วิตามินพวกนี้ช่วยให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนทำให้หลอดเลือดแข็งแรงขึ้น เราจะพบวิตามินเหล่านี้ได้ในอาหารจำพวก ผลไม้รสเปรี้ยว ผักใบเขียว พริกหยวก สับปะรดและพรุน นั่นเอง
2. ขยายหลอดเลือดด้วยการทาเจลอาร์นิก้าหรือเจลว่านหางจระเข้ เราสามารถหาซื้อเจลพวกนี้ได้ตามร้านขายยาทั่วไปเลยค่ะ
3. ใช้ลูกประคบ เพื่อแก้รอยฟกช้ำได้ด้วยค่ะ ด้วยภูมิปัญญาอันล้ำค่าของไทย โดยสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาอีกเช่นกัน แต่ถ้าหากต้องการทำเอง เราก็มีให้

วิธีทำลูกประคบสมุนไพรทำเองได้ง่ายๆ

สูตรใบรางจืด

ใช้ใบรางจืด 1 กำมือ ล้างและนำมาตำให้ละเอียดผสมกาบูร 1 หยิบมือ ห่อด้วยผ้าขาวบาง นึ่งให้อุ่นก่อนนำมาใช้งาน สูตรนี้เป็นสูตรเย็น เหมาะสำหรับแผลฟกช้ำที่มีอาการปวดบวมอักเสบ

สูตรใบขิง

ใช้ใบขิง 1 กำมือ ล้างและนำมาตำให้ละเอียดผสมกับกาบูร 1 หยิบมือ ห่อด้วยผ้าขาวบาง นึ่งให้อุ่นก่อนนำมาใช้งาน สูตรนี้เป็นสูตรร้อนใช้แก้อาการฟกช้ำที่ไม่มีอาการปวดบวมร่วมด้วย

จากนั้นนำลูกประคบที่ได้ ไปประคบที่รอยฟกช้ำประมาณ 10 นาที เช้า – เย็นจนกว่ารอยฟกช้ำจะหายไป

The post วิธีแก้ฟกช้ำ ด้วยยาและสมุนไพร รักษาอย่างไรให้หายเร็วที่สุด appeared first on คลังปัญญา.คอม.

เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านจริงๆ ที่นำข่ามาปรุงอาหาร ทำให้อาหารมีรสชาติ หอมอร่อย  ข่าจึงขาดไม่ได้ สำหรับลาบ แกงอ่อม และยังเป็นสมุนไพรในตัวอีกด้วย คนเราจึงรับประทานข่าเป็นประจำทุกวัน จากการทานอาหาร โดยที่ไม่จำเป็นต้องนำข่าสด ๆมากิน ขอแค่ รับประทานอาหารที่ปรุงด้วยข่าก็เพียงพอแล้ว วันนี้ผมมีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับสรรพคุณข่า สมุนไพรในครัวเรือน มาฝากอีกเช่นเคยครับ

ข่า ชื่อภาษาอังกฤษว่า Galangal หรือ Galanga
ข่า ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Alpinia galanga (L.) Willd.

ประโยชน์และสรรพคุณ

ทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดี

ข่าจะไปช่วยขับลม แน่นท้อง ลมท้องป่อง  ขับน้ำดี แก้อาการสะอึก  จึงเป็นที่นิยมนำมาปรุงอาหาร  ไม่ว่าจะเป็น ต้มส้มไก่ แกง ใส่ลาบ แกงอ่อม แถมยังเป็นยาแก้โรคอีกด้วย  ข่าจะไปบำรุงธาตุไฟ ที่เป็นหัวใจสำคัญของร่างกาย สามารถนำข่ามาบดเป็นผง ทำยาลูกกลอน รับประมานแก้ อาการ ปวดท้อง  ใช้ชงกินกับน้ำ หรืออาจจะเอาข่ามาฝนกับเหล้า รักษาโรคดังกล่าวก็ได้

แก้โรคระบบทางเดินหายใจ

แก้อาการหืดหอบ  เป็นไข้หวัด ไอ  เนื่องจากว่าข่ามีรสชาติที่ร้อน จึงเหมาะสม อย่างยิ่งสำหรับไข้หวัดในหน้าหนาว  ซึ่งในสมัยโบราณจะนิยมนำข่ามาต้ม กินเพื่อบรรเทาอาการเป็นหวัด คัดจมูก  หรือจะเอามาฝนผสมกับน้ำผึ้ง  น้ำมะนาวและเกลือสักเล็กน้อย กินเพื่อสกัดเสลด เสมหะ ข่าจะช่วยขยายหลอดลมได้อีกด้วยครับ

ทำให้ระบบหลอดเลือดทำงานได้ดี

ข่ามีคุณสมบัติ ที่จะช่วย การทำงานของระบบหลอดเลือดได้ เลือดไหลวนเวียนได้ดี  ขับเลือดในสตรีที่มีประจำเดือน  ช่วยขับเหงื่อได้ดี

ระบบประสาท

ข่ามีสรรพคุณ ลดอาการปวดตามข้อ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดฟัน  ปวดประจำเดือน  ปวดท้อง  โดยเฉพาะ เมื่อมีอาการเท้าบวม เคล็ดขับยอก  โดยให้ตำข่าให้ละเอียด นำมาพอกบริเวณที่มีอาการปวด จะทำให้บรรเทาอาการปวดได้  สามารถใช้ กิน ประคบ อบ แก้อาการปวดต่างๆ ได้   และลดอาการอักเสบ

ระบบผิวหนัง

ข่ายังเป็นสมุนไพร ที่รักษาโรคผิวหนังได้ เช่น กลาก เกลื้อน  แก้อาการแพ้ เม็ดผดผื่นคัน  แก้ลมพิษ  แมลงสัตว์กัดต่อย เช่น พิษแมงมุม แมงป่อง ต่อ แตน เป็นต้น  โดยเอาข่าแก่ๆ มาตำให้ละเอียด แล้วทาบริเวณที่เป็น แต่สำหรับ คนที่ถูกแมลงสัตว์กัดต่อย  ให้เอาข่ามาฝนกับน้ำมะนาว แล้วทาตรงที่สัตว์ต่อย  ข้อควรระวังก็คือ คนที่แพ้ข่า ถ้าหากทาไปแล้วมีอาการแสบร้อน ให้หยุดใช้ทันที

นอกจากข่าเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณมากมายแล้ว ข่ายังสามารถใช้เป็นยาฆ่าแมลงในแปลงผักได้เป็นอย่างดีและปลอดภัยจากสารพิษอีกด้วย  ดับกลิ่นเหม็น กลิ่นคาว ได้เป็นอย่างดี  ใครที่มีกลิ่นตัวแรง สามารถนำข่ามาต้มอาบ ช่วยระงับกลิ่นกายได้ อีกด้วยครับ

The post ข่า มีประโยชน์และสรรพคุณอย่างไร? สมุนไพรชั้นยอด ทำอาหารก็ได้ รักษาโรคก็ดี appeared first on คลังปัญญา.คอม.

วันนี้เรามีเกร็ดความรู้ เกี่ยวกับขิง ว่ามีสรรพคุณและประโยชน์ต่อร่างกาย อย่างไรบ้าง? เป็นที่ทราบกันว่า ขิงนิยมนำมาปรุงอาหาร หรือนำมาทำเป็นน้ำขิง ดื่มกัน เวลามีงานต่างๆ เช่น งานวัด มักจะมี น้ำขิง เป็นน้ำปานะ มาบริการ  ขิงเป็นสมุนไพรที่ไล่เลือดไล่ลมได้ดี ทานเป็นยาแก้ไอได้ แต่จะกินยากสักหน่อย เพราะมีรสขม เผ็ดร้อนนิดๆ ผมเห็นเขาเอาขิงมาใส่ ในเมี่ยงอม ส่วนมากจะเป็นคนวัยกลางคน ที่ชอบอมเมี่ยง มาดูกันครับว่า ขิงมีประโยชน์และสรรพคุณต่อร่างกายเราอย่างไรบ้าง และเป็นสมุนไพรในครัวเรือน ที่หาได้ง่ายๆ ครับ

ขิง ชื่อภาษาอังกฤษ คือ Ginger

ขิง ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Zingiber officinale Roscoe

ประโยชน์และสรรพคุณ

เหง้าขิง จะมีรสหวานเผ็ดร้อน ใช้แก้ อาหาร เป็นลม จุกเสียด แน่นท้อง คลื่นเหียน อาจียน ขับเสมหะ แก้อาการไอ และยังมีน้ำมันหอมระเหย ที่จะช่วยกระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ ด้วยการให้ใช้เหง้าขิงแก่ๆ มาทุบหรือตำเป็นผง ชงกับน้ำดื่ม ช่วยแก้อาการคลื่นเหียน อาเจียน จุกเสียด แน่นเฟ้อ ถ้าตำเอาน้ำผสมกับน้ำมะนาวเติมเกลือนิดหน่อย ช่วยแก้อาการไอ ขับเสมหะ

ต้นขิง มีรสเผ็ดร้อน ใช้ แก้ท้องร่วง จุกเสียดแน่นเฟ้อ ขับลมในกระเพาะอาหาร แก้อาหารเป็นบิด

ใบขิง มีรสเผ็ดร้อน บำรุงกำเดา แก้พกซ้ำ แก้นิ่ว แก้ปัสสาวะขัด ฆ่าพยาธิ แก้โรคตา และยังเอาในขิงซอยบางๆ ใส่ยำหน่อกินได้อีกด้วย

ดอกขิง มีรสเผ็ดร้อน ช่วยย่อยอาหาร แก้อาการขัดปัสสาวะ แก้โรคประสาท ที่ทำให้จิตใจเศร้าหมอง

รากขิง มีรสเผ็ดหวานร้อนขม เจริญอาหาร ขับเสมหะ แก้แน่นท้อง แก้บิด แก้ลมจุกเสียด

ผลขิง  มีรสหวานเผ็ด นิยมมาปรุง น้ำนม แก้อาการเจ็บคอ แก้ไข้ เป็นยาอายุวัฒนะ

แก่นขิง  เป็นยาแก้คัน ใช้ฝน

ขิงสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง เช่น ใช้ทำผัดขิง ใส่ในยำ  ขิงอ่อนใช้เป็นผักจิ้ม ใช้ใส่เมี่ยงกิน  แกงฮังเล ยำหอยแครง ต้มส้มปลา ยำหน่อไม้ บัวลอยไข่ หวาน ทำขิงดอง เพื่อดับกลิ่นคาวของไข่ ใช้ทำของหวานก็ได้ น้ำขิง เต้าอวย และยังสามารถทำเป็นผง ใช้ชงกับน้ำดื่มได้

นอกจากนี้ การดื่มน้ำขิง ในเวลาตอนเช้าๆ ทุกวัน จะทำให้น้ำหนักลดลงได้อีกด้วย เวลาที่เหมาะสมในการดื่มก็คือ เวลาประมาณ ตี 5 ถึง 6 โมงเช้า เพราะร่างกายจะขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย ขิงจะช่วยไปเผาผลาญพลังงานในร่างกาย การลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้เป็นการลดน้ำหนักแบบธรรมชาติ โดยที่ไม่ต้องอดทานอาหารแต่อย่างใด  ขิงเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่สรรพคุณและประโยชน์มากมาย และหาได้ง่ายตามในครัวอีกด้วยครับ

The post ขิง มีประโยชน์และสรรพคุณอย่างไร? สมุนไพรมากประโยชน์ที่ไม่ควรมองข้าม appeared first on คลังปัญญา.คอม.

สมุนไพรไทย ที่อยู่ใกล้ตัวเรา มีหลายอย่าง สมุนไพรแต่ละอย่างจะมีคุณสมบัติ สรรพคุณและประโยชน์ที่แตกต่างกันไป อยู่ที่โรคแต่ละโรคว่าจะใช้สมุนไพรอะไรรักษา วันนี้จะมาพูดถึงประโยชน์และสรรพคุณของ สมุนไพรอีกย่างหนึ่งนั่นก็คือ ว่านหางจระเข้ ชื่อวิทยาศาสตร์. Aloe vera (L.) Burm.f. ทางภาคเหนือเรียกว่า ว่านไฟไหม้  ที่เรียกอย่างนี้ เพราะว่า เวลาโดนไฟ น้ำร้อนลวก มักจะเอาว่านหางจระเข้มาใส่ แผล อาการก็จะดีขึ้นครับ ว่านหางจระเข้เป็นว่านที่ปลูกง่าย ทนทานต่อความแห้งแล้งมาก เป็นสมุนไพรเสริมความงามด้วยครับ สำหรับคนที่รักสวยรักงามต้องรู้

สรรพคุณและประโยชน์ของว่านหางจระเข้

ขจัดรังแคและบำรุงเส้นผมให้สวยงาม

ให้ตัดเอาใบสดของว่านหางจระเข้ เอามาทาที่เส้นผมโดยตรงเป็นประจำทุกวัน จะทำให้เส้นผมของคุณสวยงาม ถ้าหากต้องการให้เส้นผมสวยล้ำลึกยิ่งกว่านั้น ให้เอาวุ้นว่านหางจระเข้ มาปั่นให้ละเอียด แล้วนำมาหมักที่เส้นผมเลย ในช่วงที่หมักอยู่นั่น ให้เรานวดคลึงหนังศีรษะไปด้วย จะทำให้รากผมเย็นลง ว่านหางจระเข้จะช่วยขจัดรังแค ให้ทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จะทำให้เส้นผมสวยงาม มีน้ำหนัก สวยเป็นธรรมชาติ

แก้ปัญหาผิวหยาบกร้าน

ให้นำว่านหางจระเข้สดๆ มาหั่นเป็นชิ้นๆ หนาประมาณ 3 นิ้ว เอาหลายๆชิ้นตามที่ต้องการแล้วเอาไปแช่น้ำที่อ่างงอาบน้ำ ในขณะที่คุณกำลังอาบน้ำอยู่นั้น ให้เอาว่านหางจระเข้มาขัดถูตามตัวให้ทั่วเรือนร่าง  ให้เน้นๆ จุดที่แหหยาบกร้าน เป็นกรณีพิเศษ เช่น บริเวณข้อศอก หัวเข่า ส้นเท้า  ให้คุณทำตามนี้เป็น ประจำ บ่อยๆ รับรองว่าผิวที่แห้งหยาบกร้าน จะกลับมานุ่มนวล เนียนนุ่ม ขึ้นอย่างแน่นอน

ป้องกันการเกิดสิวและลดความมันบนใบหน้า

ให้นำเนื้อวุ้นว่านหางจระเข้ มาทาหน้า วันละ 2-3  ครั้ง โดยให้ทำติดต่อกัน ประมาณสามเดือน ก็จะเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่ใบหน้าดีขึ้น อย่างชัดเจน  และยังเป็นการป้องกันการเกิดสิว ริ้วรอยจุดด่างดำ ที่เกิดจากฝ้า ได้อีกด้วย และว่านหางจระเข้ มีฤทธิ์ ที่ยับยั้ง การติดเชื้อ ช่วยลดความมันบนใบหน้าอีกด้วยครับ

เพิ่มน้ำที่ทำให้ผิวเปล่งปลั่งขึ้น

ตามธรรมชาติคนเราเมื่อมีอายุมากขึ้น ประกอบกับสิ่งแวดล้อม ที่อยู่ใกล้ตัว ทำให้ผิวหมองคล้ำ ดำกร้าน เหี่ยวย่นง่ายๆ เนื่องจากการขาดน้ำมาหล่อเลี้ยงผิว  ทั้งผิวหน้าและผิวกาย จึงสร้างปัญหาให้กับคุณผู้หญิงที่รักสวยรักงาม เป็นอย่างมาก  ให้นำเนื้อวุ้นว่านหางจระเข้ มาหั่นบางๆ เป็นชิ้นๆ มาโป๊ะ ที่ผิวหน้าและผิวกาย ก็จะทำให้ผิวของคุณสดใสเปล่งปลั่งชุ่มชื้นขึ้นมาอย่างแน่นอน

ทั้งหมดนี้เป็นเคล็ดลับเสริมความงาม ด้วยสมุนไพรว่านหางจระเข้ สมุนไพรที่หาได้ตามสวนทั่วไป การรักษาผิวด้วยสมุนไพรตามธรรมชาติ จะทำให้ปลอดภัย ไร้ความเสี่ยง และยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วยครับ

The post ว่านหางจระเข้ สรรพคุณและประโยชน์ สุดยอดสมุนไพรบำรุงผิวพรรณ appeared first on คลังปัญญา.คอม.

จะสังเกตได้ว่า คนที่ชอบทานงาดำเป็นประจำ จะมีผิวพรรณเปล่งปลั่งอย่างเห็นได้ชัด เพราะในน้ำมันงาดำนั้นมีวิตามินอี ที่จะช่วยชะลอความแก่ บำรุงผิวพรรณ เส้นผม ป้องกันการเกิดโรคน้ำมันไขข้อเสื่อม และอักเสบได้อีกด้วย

งาดำมีสรรพคุณอย่างไร

ช่วยชะลอความแก่และต้านความเสื่อม

หากเรารับประทานงาดำทุกวัน  วิตามินอีที่อยู่ในน้ำมันงาดำ ได้แก่ กลุ่มวิตามินอีธรรมชาติ  โทโคฟีรอล และโทโคไตรอินอล จะมีคุณสมบัติในการต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ซึ่งมีประโยชน์กับผิวพรรณ และเส้นผม จะช่วยชะลอความแก่ โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่รักสวยรักงาม วิตามินอีนี้มีผลช่วยให้หลอดเลือดของเรา มีความยืดหยุ่น และส่งผลดีต่อหัวใจของเราอีกด้วย

โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำให้รับประทานวันละ 400-600 ไอยู สำหรับในการรักษาผู้ป่วยแพทย์จะให้รับประทานมากกว่านี้ หลายเท่า จากความคิดเห็นของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การรับประทานวิตามินอีที่อยู่ในน้ำมันงาธรรมชาติ ไม่มีอันตรายต่อร่างกายหรือมีผลข้างเคียงแต่อย่างใด ซึ่งข้อดีของการรับประทานน้ำมันงาดำสกัดเย็นในรูปแบบธรรมชาตินั้น คือ ส่งเสริมให้วิตามินอีอื่นๆ ที่อยู่ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น

วิตามินที่มีอยู่ในน้ำมันงาดำ มีสรรพคุณช่วยปกป้องขับสารพิษออกจากร่างกาย ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันโรคตา ช่วยย่อยอาหาร ลดน้ำตาลในเลือด ลดไขมันในเลือด ซ่อมแซมผิว บำรุงเส้นผม ผิวพรรณ ให้เปล่งปลั่ง

ช่วยลดอาการไขข้อเสื่อมและอักเสบได้

สิ่งที่ทำให้เกิดอาการไขข้อเสื่อมและอักเสบ มาจากหลายสาเหตุด้วยกัน แต่ถ้าในวงการแพทย์ จะพูดถึง น้ำหล่อเลี้ยงกระดูกอ่อน ที่อยู่ในร่างกายของเรา ซึ่งมีสาเหตุอยู่ 4 กรณี ที่ก่อให้เกิดอาการไขข้อเสื่อมและอักเสบ

ข้อแรก คือ มวลของกระดูกอ่อนลดลง ทำให้ข้อกระดูกแข็ง 2 ข้างกระทบกัน ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดขึ้น

ข้อสอง เกิดจากน้ำหล่อเลี้ยงลดลง สาเหตุก็คือมาจากมวลกระดูกอ่อนลดลงก่อน ซึ่งน้ำหล่อเลี้ยงนี้ มีหน้าป้องกันการเสียดสีของข้อกระดูกแข็งและกระดูกอ่อน เป็นการป้องกันไม่ให้กระดูกอ่อนถูกทำลาย และลดแรงกระแทกจากน้ำหนักในร่างกาย

ข้อสาม เกิดจากน้ำหล่อเลี้ยงรั่ว สาเหตุเกิดจากอุบัติเหตุ  กระดูกอ่อนแตก ถุงหุ้มน้ำหล่อเลี้ยงแตก เป็นต้น

ข้อสี่ เกิดจากการกัดกินของกรดเมื่อร่างกายขาดความสมดุลของสารอาหาร สารเคมี มาจากการบริโภค กินเหล้า สูบบุหรี่ เป็นต้น

การบริโภคน้ำมันงาดำนั้นเป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกายของเรา จึงควรบริโภคอยู่เป็นประจำ สม่ำเสมอ แล้วคุณจะปลอดภัยจากโรคที่ได้กล่าวมาทั้งนี้อย่างแน่นอน ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐครับ

The post ประโยชน์และสรรพคุณของงาดำ ทานอย่างไรจึงได้ผลดีต่อร่างกายมากที่สุด appeared first on คลังปัญญา.คอม.