ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ใครๆ ก็อยากมีผมที่ยาวสวยเหมือนพรีเซนเตอร์พวกดารา นางแบบ และนักร้อง แต่ในชีวิตประจำวันของเราต้องเผชิญกับสารเคมีจากการจัดแต่งทรงผม และมลภาวะสิ่งต่างๆ มากมาย เช่น ฝุ่น ควันท่อไอเสีย แสงแดด ล้วนเป็นอันตรายต่อเส้นผมของเรา นอกจากการดูแลผิวพรรณแล้ว การบำรุงเส้นผมเป็นอีกสิ่งที่สำคัญและควรใส่ใจเป็นอย่างมาก
ผู้หญิงอย่างเราต้องรักเส้นผมยิ่งชีพ เพราะ เส้นผมหรือทรงผมนั้นช่วยให้ใบหน้าเราดูดีขึ้น แล้วยังทำให้บุคลิกภาพดีตามไปด้วย แถมยังช่วยดึงดูดให้หนุ่มๆ หันมาเลียวมองอีกนะ หลายคนไม่รู้จะเริ่มบำรุงเส้นผมอย่างไร วันนี้เรามีขั้นตอนการดูแลเส้นผมมาฝากกันค่ะ
วิธีบำรุงและดูแลเส้นผม
- เริ่มจากการสระผม จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกออกไปได้ ให้เราเลือกแชมพู และครีมนวดที่ใช้ให้เหมาะสมสภาพเส้นผมของเรา ก่อนซื้อควรอ่านสรรพคุณ และส่วนผสมที่ฉลากก่อน การสระผมไม่ควรเอาเล็บลงหรือขยี้แรงๆ ให้ใช้ปลายนิ้วและฝ่ามือนวดให้ทั่ว อย่างน้อยควรสระผมวันเว้นวัน ไม่จำเป็นต้องสระผมทุกวัน
- หมั่นบำรุงปลายเส้นผมด้วยเซรั่มหรือน้ำมันจากธรรมชาติหลังสระผมแล้ว เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก สำหรับสาวๆ ที่ผมมันง่ายให้ใช้ในปริมาณที่น้อย นอกจากบำรุงหลังสระแล้วการทำทรีทเมนท์หรือหมักผสมด้วยสูตรต่างๆ นั้นก็ช่วยฟื้นฟูเส้นผม ไม่ให้หยาบกร้านได้เช่นกัน
- ควรเลือกหวีให้เหมาะกับทรงผม แล้วหมั่นหวีผมบ่อยๆ อย่างเบามือ หากผมพันกันไม่ควรหวีแรงๆ ให้ผมแยกออก แต่ควรใช้มือค่อยๆ คลี่ผมออก เพื่อไม่ให้ผมขาดหลุดร่วง และการหวีผมแรงๆ เป็นการกระชากหนังศีรษะอีกด้วย
- ปกป้องเส้นผมจากความร้อนที่เป็นตัวการทำให้ผมสาวๆ แห้งเสีย แนะนำให้สระผมด้วยน้ำธรรมดาไม่ใช้น้ำอุ่น หลังสระให้ใช้ผ้าขนหนูซับผมเบาๆ ให้พอหมาดๆ จะช่วยให้เป่าผมได้เร็วขึ้น หากไม่เร่งรีบนักให้ใช้พัดลมเป่าผมแทนการใช้ไดร์
- เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ หนีไม่พ้นผักสีเขียว (ผักโขม ปวยเล้ง หรือบร็อกโคลี) ถั่ว และปลาแซลมอน เพราะ ในผักมีวิตามิน ธาตุเหล็กและแคลเซียมที่ช่วยเสริมสร้างไขมันในชั้นผิวหนัง ช่วยให้หนังศีรษะแข็งแรง ไม่เป็นแผล ช่วยบำรุงรากผม แล้วเสริมสร้างโปรตีนด้วยถั่ว จะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ส่วนปลาแซลมอนมีกรดไขมันโอเมก้า-3 จะทำให้ผิวหนังชุ่มชื้นและเส้นผมเงางามขึ้น
นอกจาก 5 วิธีนี้ เราอยากให้สาวๆ มีวินัยในการดูแลเพิ่มขึ้น หมั่นเล็มปลายผมบ่อยๆ เดือนละครั้ง หยุดรังแกเส้นผมด้วยการใช้สารเคมี อยากให้เส้นผมสวยและเงางาม สาวๆ ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเอง ถ้าเป็นข้อห้ามก็งดทำ และแนะนำให้ปฏิบัติตามวิธีดังกล่าวค่ะ